จบลงด้วยผลเสมอ 2-2

ดิก แอดโวคาต กุนซือ รัสเซีย จัดทัพผู้เล่นผสมผสานตัวเก๋ากับดาวรุ่ง โดยมี อังเดร อาร์ชาวิน อดีตเพลย์เมกเกอร์ อาร์เซนอล และ พาโบล โปเกรบเนียค กองหน้าซึ่งถูกยืมตัวมาเล่นให้ ฟูแลม เป็นตัวอันตรายเกมรุก ทางฝั่ง อุรุกวัย ของเทรนเนอร์ ออสการ์ ตาบาเรซ จัดทัพเต็มสูบ ดีเอโก ฟอร์ลัน เอดินสัน คาวานี และ หลุยส์ ซัวเรซ เป็นสามประสานแดนหน้า เกมครึ่งแรกเป็น อุรุกวัย ที่เหนือกว่ามีโอกาสลุ้นประตูหลายจังหวะ นาที 17 ซัวเรซ หลุดเข้าไปแตะหลบ วิอาเชสลาฟ มาลาเฟเยฟ นายทวารรัสเซีย แต่ยิงหลุดกรอบประตูไปเอง อีก 3 นาทีถัดมา ซัวเรซ จ่ายบอลให้ คาวานี แต่หัวหอกนาโปลีตะบันเหินข้ามคาน ขณะที่เจ้าถิ่นโอกาสใกล้เคียงที่สุดในนาที 37 แต่ลูกยิงของ โปเกรบเนียค ติดเซฟ เฟร์นานโด มุสเลรา นายด่าน "จอมโหด" ทำให้จบครึ่งแรกยังเสมอ 0-0 ปิดฉากครึ่งหลัง 2 นาที ซัวเรซ ก็ทำให้ อุรุกวัย ขึ้นนำ 1-0 ได้สำเร็จ โดยกองหน้า ลิเวอร์พูล ใช้ความสามารถเฉพาะตัวเลี้ยงบอลหนีกองหลังรัสเซียในเขตโทษ ก่อนซัดบอลผ่านตัว มาลาเฟเยฟ ตุงตาข่ายแต่ทีมเยือนดีใจไม่นานเพียงอึดใจเดียว "หมีขาว" ตามตีเสมอแบบทันควันในนาที 50 อเลกซานเดอร์ เคอร์ซาคอฟ ตัวสำรองหลุดเข้าไปยกบอลข้ามตัว มุสเลรา ที่ออกมานอกเส้นมากเกินไป หลังจากนั้น รัสเซีย ก็เดินหน้าบุกใส่มากกว่า แต่บวกประตูเพิ่มไม่ได้จบเกมจึงเสมอ 1-1 ขณะที่ "ตราหมากรุก" โครเอเชีย อุ่นแข้งสวยถล่ม เอสโตเนีย 3-1 จากประตูของ เวดรัน ชอว์ลูกา นิโคลา คาลินิช และ ออกน์เยน วูโคเยวิช ส่วน เอสโตเนีย ตีไข่แตกจาก คอนสแตนติน วาสซิลเยฟ สำหรับเกมของคู่ระหว่าง เบลเยี่ยม กับ มอนเตเนโกร ซึ่งต่างชวดตั๋วลุยศึกยูโร 2012 จบลงด้วยผลเสมอ 2-2